บันทึก เรียนภาษาเกาหลีกับ ฮันนา(หนึ่ง)

ก่อนอื่น ต้องขอขอบคุณ คุณฮานา นะคะ  หา URL ไม่เจอแล้วค่ะ เนื่องจากไม่ได้ขออนุญาติก่อน นำมาเผยแผ่ ค่ะ
เรียนภาษาเกาหลีไปพร้อมกับฮานา (하나) 
ไวยากรณ์ (문법) รูปปฎิเสธ
คราวนี้มารู้จักกับไวยากรณ์ในรูปปฎิเสธกันบ้าง เริ่มจากทบทวนรูป
N. 이다 เป็น / คือ
선생님 입니까? (รูป ㅂ/습 니다)
ซอน แซง นิม อิม นี ก้า — เป็นครูหรือคะ
아니요, 호텔원 입니다.
อา นี โย, โฮ เทล วอน อิม นี ดา – ไม่ใช่คะ เป็นพนักงานโรงแรม
여자진구 예요? ( รูป요)
ยอ จา ชิ่น กู เย โย – เป็นแฟนหรือคะ
네, 제 여자진구 예요.
เน, เช ยอ จา ชิ่น กู เย โย. – ใช่ครับ แฟนของผม
N. 이/가 아니다 ไม่ใช่, ไม่ได้เป็น เป็นรูปปฎิเสธของ N. 이다
나는 한국사람이 아닙니다.
นา นึน ฮัน กุก ซา รา มี อา นิม นี ดา – ฉันไม่ได้เป็นคนเกาหลี
저는 선생님이 아니예요.
ชอ นึน ซอน แซง นี มี อา นี เย โย. – ฉันไม่ได้เป็นครู
~ 지 않다 = not แปลว่า ไม่ วางไว้หลัง V.stem เพื่อเปลี่ยนให้เป็นรูปปฎิเสธ
โดยการตัด 다 แล้วเติม지 않다 โดยไม่ต้องสนใจว่า V.stem หลังตัด 다แล้วจะเป็นสระหรือตัวสะกด เช่น
가다  가 + 지 않다 = 가지 않습니다 , 가지 않아요.
คา ดา  คา + จี อัน ท่า = คา จี อัน ซึม นี ดา หรือ คา จี อา นา โย. แปลว่า ไม่ไป
먹다  먹 + 지 않다 = 먹지 않습니다 , 먹지 않아요.
ม็อก ต้า  ม็อก + จี อัน ท่า = ม็อก จี อัน ซึม นี ดา หรือ ม็อก จี อา นา โย. แปลว่า ไม่กิน
요즘 바쁘지 않습니다.
โย จึม พา ปือ จี อัน ซึม นี ดา = ช่วงนี้ ไม่ยุ่ง
아침에는 밥을 먹지 않아요.
อา ชี่ เม นึน พา บึล ม็อก จี อา นา โย = เมื่อเช้าไม่ได้กินข้าว
안 = not
– ใช้วางหน้าคำกริยาเพื่อทำให้เป็นรูปปฎิเสธ แปลว่า ไม่
가다  안 + 갑니다. / 안 가요.
คา ดา  อัน + คัม นี ดา / หรือ อัน คา โย. แปลว่า ไม่ไป
คำที่ต้องระวังคือคำกริยาที่เกิดจากการผสมคำระหว่างคำนามและคำกริยา 하다 เช่น
숙제하다, 일하다, 공부하다, 운동하다 เป็นต้น คำกริยาประเภทนี้จะต้อง
แยกคำนามออกก่อนเพื่อวาง 안ไว้หน้า 하다 ซึ่งถือว่าเป็นกริยาแท้เท่านั้น
숙제하다  수제를 + 안 + 합니다 = 수제를 안 합니다
왜 전화를 안 했습니까?
เว ชอน ฮวา รึล อัน เฮด ซึม นี ก้า = ทำไมไม่โทรศัทพ์
오늘은 학교에 안 갑니다.
โอ นือ รึน ฮัก กิว เอ อัน คัม นิ กา = วันนี้ไม่ได้ไปโรงเรียน
การใช้ตัวเลขในภาษาเกาหลี
อิ อิ ไม่ได้ update ซะนานเลย หลังจากที่รู้จักตัวเลขในภาษาเกาหลีกันไปแล้ว
มารู้จักวิธีการใช้กันสักหน่อยหละกัน อย่างที่รู้ตัวเลขในภาษาเกาหลีมีใช้ทั้ง 2 แบบ คือ
แบบเกาหลีแท้ และ แบบคำยืมมาจากจีน หลักการใช้ก็คือ การจำอย่างเดียวเลย
แบบเกาหลีแท้
ใช้กับลักษณะนาม (บางตัว) , เวลา (อันนี้เฉพาะที่เป็นชั่วโมงเท่านั้น) , อายุ เช่น
언니가 커피를 두 잔 마십니다.(ออน-นี-กา คอ-พี-รึล ทู จัน มา-ชิม-นิ-ดะ) พี่สาวดื่มกาแฟ 2 ถ้วย
오전 10시 45분 = 오전 열시 사십오분 (โอ-จอน ยอล-ชี ซา-ชิบ-โอ-บุน) ก่อนเที่ยง 10.45น.
저는 나이가 스물 살 입니다 (ชอ -นึน ซือ-มุล-ซา-ริม-นี-ดะ) ฉัน อายุ 20 ปี
หมายเหตุ ตัวเลขแบบเกาหลี 4 ตัว ได้แก่ 1 2 3 4 เมื่อใช้คู่กับลักษณนาม
จะมีการเปลี่ยนแปลงรูปจาก 하나 , 둘 , 셋 , 넷 เป็น 한 , 두 , 세 , 네 ตามลำดับ
แบบคำยืมจากภาษาจีน
ใช้กับลักษณนาม (บางตัว) , เวลา (ที่เป็นนาที) , วัน เดือน ปี , สกุลเงิน,
ราคาสินค้า, เบอร์รถเมล์, เบอร์โทรศัพท์ เช่น
1995년 5월 10일 = 천구백구십오년 오월 십일 (ชอน-กู-เบก-กู-ชี-โบ-นยอน โอ-วอล ชี-บิล)
100원 = 백원 (เบ-กวอน)
ลักษณนาม แบบเกาหลีแท้
개 (เก) อัน
병 (บยอง) ขวด
장 (จัง) แผ่น
잔 (จัน) ถ้วย
마리 (มา-รี) ตัว
그릇 (คือ-รึด) จาน
사람 (ซา-รัม) คน
분 (บุน) ท่าน (สุภาพ)
명 (มยอง) คน
시간 (ชิ-กัน) ชั่วโมง
시 (ชิ) โมง
달 (ดัล) เดือน
살 (ซัล) ขวบ (อายุ)
번 (บอน) ครั้ง
송이 (ซง-งี) ดอก (ดอกไม้)
대 (เด) เครื่อง
자루 (จา-รุ) แท่ง
벌 (บอล) ชุด
짝 (จัก) ข้าง (เช่น ถุงเท้า 1 ข้าง)
켤레 (คยอล-เล) คู่
권 (ควอน) เล่ม
갑 (คับ) ซอง (บุหรี่) , กล่องเล็กๆ
봉지 (บง-จี) ถุง (ถุงพลาสติก)
줄 (จุล) บรรทัด
แบบคำยืมจากภาษาจีน
분 (บุน) นาที อย่าสับสนกับลักษณนามอีกตัวนะ (ที่แปลว่า ท่าน) เพราะอ่านออกเสียงเหมือนกัน
일 (อิล) วัน
월 (วอน) เดือน
년 (นยอน) ปี
개월 (เก-วอน) เดือน (สำหรับคนท้อง)
원 (วอน) เงินวอนของเกาหลี
층 (ชึง) ชั้น
페이지 (เพ-อี-จี) หน้า (Page)
쪽 (จก) หน้า (ใช้ได้เหมือนกัน)
번 (บอน) ข้อ (1,2,3)
호실 (โฮ-ชิล) ห้อง
회 (ฮเว) ครั้งที่
주년 (จุ-นยอน) รอบปี
เป็นการคุยเรื่อยเปื่อยจริงๆ เพราะนึกอะไรออกก็พิมพ์มา
เป็นประโยคที่ได้ยินบ่อยๆในซีรีย์เกาหลี เป็นประโยคที่ใช้ในชีวิตประจำวันไม่เป็นทางการ
여보세요? (ยอ-โบ-เซ-โย๊ะ) ฮัลโหล ใช้รับโทรศัทพ์
시간이 있어요? (ชี-กา-นี อิ-ซอ-โย๊ะ) ว่างไหม
약속이 있어요? (ย๊าก-โซ-กี อิ-ซอ-โย๊ะ) มีนัดหรือคะ
뭐 해요? (มวอ-แฮ-โย๊ะ) ทำอะไร
어떻게 해요? (ออ-ตอ-เค แฮ-โย๊ะ) ทำอย่างไร
잠깐만요. (ชัม-กัน-มัน-โย๊ะ) = เดี๋ยวคะ
천천히 하세요. (ช่อน-ช่อน-ฮี ฮา-เซ-โย) = พูดช้าๆหน่อยคะ
희춘를 알아요? (ฮี-ชุล-รึล อา-รา-โย๊ะ) = รู้จักฮีชุลไหม
좋아해요. (โช-อา-แฮ-โย) = ชอบ
싫어해요. (ชี-รอ-แฮ-โย) = ไม่ชอบ
가 요? (คา-โย๊ะ) = ไปไหม
어디에 가요? (ออ-ดิ-เอ คา-โย๊ะ) = ไปที่ไหนคะ
누구하고 가요? (นู-กู-ฮา-โก คา-โย๊ะ) = ไปกับใครคะ
어떻게 가요? (ออ-ตอ-เค คา-โย๊ะ) = ไปอย่างไรคะ
화가나요? (ฮวา-กา-นา-โย๊ะ) = โกรธหรือคะ
밥먹었어요? (พัม-มอ-กอ-ซอ-โย๊ะ) = กินข้าวหรือยัง
많이 먹어. (มา-นี มอ-กอ) = กินเยอะๆนะ
애인 있어요? (แอ-อิน อิ-ซอ-โย๊ะ) = มีแฟนหรือยัง
맞아요. (มา-จา-โย) = ถูกต้อง
얼마예요? (ออล-มา-เย-โย๊ะ) = เท่าไหร่คะ
다음 주에 만나요. (ทา-อึม ชู-เอ มัน-นา-โย) = พบกันสัปดาห์หน้า
가자 (คา-จา) = ไปกันเถอะ
먹자 (ม๊อก-จา) = กินกันเถอะ
맛있어 (มา-ชิ-ซ๊อ) = อร่อยมั๊ย
갈께 (คัล-เก) = ไปก่อนนะ
안녕히 주무세요? = ราตรีสวัสดิ์ (ใช้พูดกับผู้ใหญ่)
잘 자 (ชัล-จา) = ราตรีสวัสวดิ์ / ฝันดีนะ
알았어요? (อา-รา-ซอ-โย๊ะ) = เข้าใจไหม
알았지 (อา-รา-จิ๊) = เข้าใจแล้วใช่ไหม
알았어 (อา-รา-ซอ) = เข้าใจแล้ว
잘 지내요? (ชัล ชี-แน-โย๊ะ) = สบายดีไหม
행복하세요. (แฮง-โบ-คา-เซ-โย) = ขอให้มีความสุข
축하합니다. (ชู-คา-ฮัม-นิ-ดา) = ยินดีด้วยคะ
축하해. (ชู-คา-แฮ) = ยินดีด้วยนะ
왜 (เว) = ทำไม
하자마 (ฮา-จิ-มา) = อย่าทำ
가지마 (คา-จิ-มา) = อย่าไป
잊지마 (อิด-จิ-มา) = อย่าลืม
보고싶어요. โพ-โก-ชี-พอ-โย = คิดถึง (อยากเจอ)
생각해요. แซง-กา-แค-โย = คิดถึง (นึกถึง)
정말요. (ชอง-มัล-โย๊ะ) = จริงหรือ
진짜 (ชิน-จ๊ะ) = จริงหรือ
죽을래 (ชู-กึล-แร) = อยากตายหรือไง (อิ อิ เอาไว้พูดกับเพื่อนสนิทเท่านั้น ไม่งั้นอาจตายได้)
내일 보자 (แน-อิล โพ-จา) = เจอกันพรุ่งนี้
หวังว่าคงเป็นประโยชน์บ้างนะคะในประโยคเหล่านี้
ไวยากรณ์ (문법)
V + 고 싶다. = อยาก
V + 고 있다. = กำลัง
V + 고 싶다
วิธีใช้ ให้ตัด다 ของ V-stem. ทิ้งแล้วเติม 고 싶다 (ยังไม่ได้ผันกริยา) เช่น
한국어를 배우고 싶습니다. ฮัน-กู-กอ-รึล แพ-อู-โก ชิพ-ซึม-นิ-ดา
한국어를 배우고 싶어요. ฮัน-กู-กอ-รึล แพ-อู-โก ชี-พอ-โย.
แปลว่า “อยากเรียนภาษาเกาหลี” 한국어(ภาษาเกาหลี)
를 (คำชี้กรรม) 배우 (เรียน มาจากคำว่า 배우다 แล้วตัด다 ทิ้ง)
แล้วเติม고 싶다 (โดยผันกริยา고 싶다 ในรูป ㅂ(습나다) และรูป 요)
한복을 입고싶습니다.
ฮัน-โบ-กึล อิบ-โก-ชิพ-ซึม-นี-ดา. = อยากใส่ชุดฮันบก
이책을 사고싶습니다.
อี-เช-กึล ซา-โก-ชิพ-ซึม-นิ-ดา = อยากซื้อหนังสือเล่มนี้
슈퍼주니어를 만나고싶어요.
ซยู -พอ-จู-นี-ออ-รึล มัน-นา-โก-ชี-พอ-โย = อยากเจอวงซุปเปอร์จูเนียร์
영화를 보고싶어요.
ยอง-ฮวา-รึล โพ-โก-ชี-พอ-โย. = อยากดูหนัง (คำว่า보고싶어요
แปลว่าคิดถึงได้ด้วยต้องดูว่า ณ.เวลานั้นเราพูดถึงอะไรอยู่ ไม่ใช่แปลว่าคิดถึงหนัง)
V + 고 있다. = กำลัง
วิธีใช้ ให้ตัด다 ของ V-stem. ทิ้งแล้วเติม 고있다 (ยังไม่ได้ผันกริยา) เช่น
아버자가 일을 하고 있습니다.
อา-บอ-จี-กา อี-รึล ฮา-โก-อิซ-ซึม-นี-ดา = คุณพ่อกำลังทำงาน
강인씨는 회사에가고있어요.
คัง-อิน-ชี่-นึน ฮเว-ซา-เอ คา-โก-อิ-ซอ-โย. = คุณคังอินกำลังไปที่บริษัท
희줄씨가 식당에서 밥을 먹고있어요.
ฮี-ชุล-ชี่-กา ชิก-ตัง-เอ-ซอ พา-บึล ม็อก-โก-อิ-ซอ-โย. = คุณฮีชุลกำลังกินข้าวที่ร้านอาหาร
도 = ด้วย, ก็ ( also, too)
เมื่อวาง 도ไว้หลังคำช่วย 이/가 , 을/를 ให้ตัดคำช่วยเหล่านี้ออก เช่น
한국말을 배웁니다. 영어도 배웁니다.
ฮัน-กุก-มา-รึล แพ-อุม-นี-ดา. ยอง-ออ-โด แพ-อุม-นี-ดา. = เรียนภาษาเกาหลี เรียนภาษาอังกฤษด้วย
불고기를 먹습니다.냉면도먹습니다.
พุล-โก-กิ-รึล ม็อก-ซึม-นิ-ดา. แนง-มยอน-โด ม็อก-ซึม-นิ-ดา. = กินพุลโกกิ กินบะหมี่เย็นด้วย
연필이 있습니다. 볼펜도있습니다
ยอน-พิ-รี อิซ-ซึม-นี-ดา. พล-เพ่น-โด อิซ-ซึม-นิ-ดา = มีดินสอ มีปากกาด้วย
구두가 있어요. 운동화도 있어요.
คู-ดู-กา อิ-ซอ-โย. อุน-ดง-ฮวา-โด อิ-ซอ-โย. = มีรองเท้าหุ้มส้น มีรองเท้ากีฬาด้วย
맥주를 마셔요. 소주도 마셔요.
แม๊ก-จู-รึล มา-ชยอ-โย. โซ-จู-โด มา-ชยอ-โย = ดื่มเบียร์ ดื่มเหล้าโซจูด้วย
편지를 써요. 카드도써요.
พยอน-จี-รึล ซอ-โย. ค่า-ดือ-โด ซอ-โย = เขียนจดหมาย เขียนการ์ดด้วย
**ถ้าจะพูดว่า “ฉันด้วย” อย่างเช่น เพื่อนพูดว่า อยากดื่มน้ำส้ม แล้วเราก็อยากดื่มเหมือนกันก็พูดว่า
ฉันด้วย ใช้คำว่า 나도요. (นา-โด-โย) หรือ 저도요 (ชอ-โด-โย)
วันและเดือนในภาษาเกาหลี
มารู้จักวัน-เดือน ในภาษาเกาหลีกันว่าเขาเรียกว่าอะไรกันบ้าง
요일 = วัน
일요일 (อี-รโย-อิล) = วันอาทิตย์
월요일 (วอ-รโย-อิล) = วันจันทร์
화요일 (ฮวา-โย-อิล) = วันอังคาร
수요일 (ซู-โย-อิล) = วันพุธ
목요일 (โม-คโย-อิล) = วันพฤหัส
금요일 (คือ-มโย-อิล) = วันศุกร์
토요일 (โท่-โย-อิล) = วันเสาร์
오늘 โอ-นึล = วันนี้ / 어제 ออ-เจ = เมื่อวาน / 내일 แน-อิล = พรุ่งนี้
จากที่เคยรู้กันไปบ้างแล้วว่า 에, 에서 เป็นคำช่วยชี้สถานที่
에 ยังเป็นคำช่วยในการชี้วันและเวลาอีกด้วยแสดงความหมายเหมือน at, on ในภาษาอังกฤษ เช่น
오후에 친구를 만나요.
โอ-ฮู-เอ ชิ่น-กู-รึล มัน-นา-โย = พบเพื่อนในตอนบ่าย
토요일에도 회사에 갑니까?
โท่-โย-อิ-เร-โด ฮเว-ซา-เอ คัม-นิ-ก้า? = วันเสาร์ก็ไปทำงานด้วยหรือคะ
여덟 시에 학교에 갑니다.
ยอ-ดอล ชี-เอ ฮัก-กโย-เอ คัม-นิ-ดา. = ไปโรงเรียนตอน 8 โมง
월เดือน
일월 (อี-รอล) = มกราคม
이월 (อี-วอล) = กุมภาพันธ์
삼월 (ซา-มอล) = มีนาคม
사월 (ซา-วอล) = เมษายน
오월 (โอ-วอล) = พฤษภาคม
유월 (ยู-วอล) = มิถุนายน
칠월 (ชี-รอล) = กรกฎาคม
팔월 (พา-รอล) = สิงหาคม
구월 (กู-วอล) = กันยายน
시월 (ชี-วอล) = ตุลาคม
십일월 (ชี-บี-รอล) = พฤศจิกายน
십이월 (ชี-บี-วอล) = ธันวาคม
เดือนในภาษาเกาหลีจำง่ายๆคือ จำเลข 1-12 (แบบจีน)ให้ได้แล้วเติมคำว่าเดือน (월)
เข้าไปแล้วอ่านโดยกฎการโยงเสียง ยกเว้นเดือน 6 และ 10 ตัวสะกดจะหายไป
การบอกเวลา
การบอกเวลาของภาษาเกาหลี คำว่า “โมง” (시) ใช้เลขแบบเกาหลีแท้ ส่วนคำว่า
“นาที” (분) ใช้เลขแบบภาษาจีน และถ้าต้องการระบุว่าเป็นเวลาตอนเช้าหรือช่วงอื่นๆ
ก็ให้ใส่คำระบุเวลาไว้หน้าประโยค
เทียบช่วงเวลาเกาหลีกับของไทยได้แก่
아침…..อา-ชิ่ม….. ตอนเช้า
คือช่วงเวลา 6 โมง ถึง 11 โมง ของไทย
오전…..โอ-จอน….ตอนสาย
คือช่วงเวลา 7 โมง ถึง 11 โมง ของไทย
정오….. ชอง-โอ….เที่ยงวัน
12.00 น. (นิยมใช้ คำว่า 정오 ไม่นิยมใช้คำว่า 12 นาฬิกา)
오후….. โอ-ฮู….. ตอนบ่าย
คือช่วงเวลาบ่ายโมง ถึง 5 โมงเย็น ของไทย
저녁….. ชอ-นยอก…ตอนเย็น
คือช่วงเวลา 6โมงเย็น ถึง 2 ทุ่ม ของไทย
밤…….. พัม………… กลางคืน
คือช่วงเวลา 3 ทุ่ม ถึง 5 ทุ่ม ของไทย
자정….. ชา-จอง….. เที่ยงคืน
24.00 น. (เกาหลีใช้ได้ทั่ง자정 และ 밤 12 시)
새벽….. แซ-บยอก….. เช้ามืด
คือช่วงเวลา ตี 1 ถึง ตี 6 โมงเช้า ของไทย
***คำว่า “30 นาที” หรือ “ครึ่ง” พูดได้ 2 อย่างคือ
– 30 분 ( 30 นาที)
– 반 (ครึ่ง)
เช่น
8:30 น. พูดได้ 2 อย่างคือ
– 여덟시 삼삽분 (ยอ-ดอล-ชี ซัม-ชิบ-บุน) = 8 โมง 30 นาที
– 여덟시 반 (ยอ-ดอล-ชี พัน) = 8 โมงครึ่ง
11.25 น.
열한시 이십오 분 (ยอล-ฮัน-ชี อี-ชี-โบ บุน) 11 โมง 25 นาที
3:15 น.
세시 십오분 (เซ-ชี ชี-โบ บุน) 3 โมง 15 นาที
A : 지금 몇 시예요?
ชี-กึม มยอ-ชี เย-โย๊ะ? = ตอนนี้ กี่โมงแล้วคะ?
B : 아침 7 시 반이에요.
อา-ชิ่ม อิล-กบ-ชี พา-นี เอ-โย = ตอนเช้า 7 โมงครึ่ง
A : 지금 몇 시예요?
ชี-กึม มยอ-ชี เย-โย๊ะ? = ตอนนี้ กี่โมงแล้วคะ?
B : 새벽 3 시 29 분이에요.
แซ-บยอก เซ-ชี อี-ชิบ-คู บู-นิ-เอ-โย = เช้ามืด ตี 3, 29 นาที
A : 지금 몇 시예요?
ชี-กึม มยอ-ชี เย-โย๊ะ? = ตอนนี้ กี่โมงแล้วคะ?
B : 9 시 47 분이에요.
อา-โฮบ-ชี ซา-ชิบ-ชิล บู-นี-เอ-โย. = เก้าโมง 47 นาที
ตัวเลขในภาษาเกาหลี
ในภาษาเกาหลีจะมีการใช้ทั้งตัวเลขที่มาจากภาษาเกาหลี
และคำยืมมาจากภาษาจีนค่ะ ส่วนวิธีการใช้จะมาบอกอีกทีเป็นเรื่องๆไปนะคะ
เพราะมีการใช้ตัวเลขทั้ง 2 แบบ
แบบเกาหลีแท้
ใช้กับลักษณนาม (บางตัว) , เวลา (อันนี้เฉพาะที่เป็นชั่วโมงเท่านั้น) , อายุ
แบบคำยืมจากภาษาจีน(Sino-Korean)
ใช้กับลักษณนาม (บางตัว) , เวลา (ที่เป็นนาที) , วัน เดือน ปี , สกุลเงิน
บทสนทนา
Posted by _Hana on Oct 15, ’07 10:52 AM for everyone
Category: Other
มารวบรวมบทสนทนาง่ายๆ กันก่อนดีกว่าเอาแบบเรียงจากสุภาพมากไปหาน้อยหละกัน
คำทักทาย
– 안녕하십니까? อันยอง ฮา-ชิม-นี-ก้า?
– 안녕하세요? อันยอง ฮา-เซ-โย๊?
– 안녕 อันยอง .
ถามว่า “ช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง”
– 요즘 어떻게 지내십니까? โย-จึม ออ-ตอ-เค ชี-แน-ชิม-นี-ก้า?
– 요즘 어떻게 지내세요? โย-จึม ออ-ตอ-เค ชี-แน-เซ-โย๊?
– 잘,지내요? ชัล, ชี-แน-โย๊? (สบายดีไหม)
ตอบว่า “สบายดี”
– 잘, 지냅니다. ชัล, ชี-แนม-นิ-ดา.
– 네, 잘 지내요. เน, ชัล-ชี- แน-โย.
ยินดีที่ได้รู้จัก
– 처음 뵙겠습니다. ช่อ-อึม พเวบ-เกส-ซึม-นี-ดา
– 만나서 반갑습니다. มัน-นา-ซอ พัน-กับ-ซึม-นี-ดา
– 만나서 반가워요. มัน-นา-ซอ พัน-กา-วอ-โย
– 반갑습니다. พัน-กับ-ซึม-นี-ดา
ขอบคุณ
– 고맙습니다. โค-มับ-ซึม-นี-ดา
– 감사합니다. คัม-ซา-ฮัม-นี-ดา
– 고마워요. โค-มา-วอ-โย
– 고마워. โค-มา-วอ
– 고맙다. โค-มับ-ต้า (ใช้เฉพาะกับคนสนิทมากๆหรือเด็กกว่ามากๆ)
คำขอโทษ
– 죄송합니다. ชเว-ซง-ฮัม-นี-ดา
– 미안합니다. มี-อัน-ฮัม-นี-ดา
– 죄송해요. ชเว-ซง-แฮ-โย
– 미안해요. มี-อัน-แฮ-โย
– 미안해. มี-อา-แน.
ท่านนั้นคือใคร / คนนั้นคือใคร
– 그 분이 누구입니까? คือ พู-นี นู-กู-อิม-นี-ก้า?
– 그 분이 누구예요? คือ พู-นี นู-กู-เย-โย๊?
– 그 사람이 누구입니까? คือ ซา-รา-มี นู-กู-อิม-นิ-ก้า?
– 그 사람이 누구예요? คือ ซา-รา-มี นู-กู-เย-โย๊?
ถามว่า “จะไปไหนหรือคะ”
– 어디에 가십나까? ออ-ดิ-เอ คา-ชิม-นิ-ก้า?
– 어디에 갑나까? ออ-ดิ-เอ คัม-นิ-ก้า?
– 어디에 가요? ออ-ดิ-เอ คา-โย๊?
ตอบ
시내에 갑니다. ชี-แน-เอ คัม-นิ-ดา (ไปในเมือง)
시내에 가요. ชี-แน-เอ คา-โย.
การกล่าวลา
– 안녕히 계십시오. อัน-ยอง-ฮี คเย-ชิบ-ชี-โอ.
– 안녕히 가십시오. อัน-ยอง-ฮี คา-ชิบ-ชี-โอ.
– 안녕히 계세요. อัน-ยอง-ฮี คเย-เซ-โย.
– 안녕히 가세요. อัน-ยอง-ฮี คา-เซ-โย.
– 안녕 อัน-ยอง (นอกจาก สวัสดี แล้วยังแปลว่า ลาก่อน ได้อีกด้วย)
– 빠이빠이 ปา-อี ปา-อี (มาจากคำว่า Bye Bye นั้นเอง)
แล้วพบกันใหม่
– 또 뵙겠습니다. โต้ พเวบ-เกส-ซึม-นิ-ดา
– 또 만나요. โต้ มัน-นา-โย.
– 또 보자. โต้ โพ-จา
ประโยคแบบสุภาพและเป็นทางการ
เคยได้ยินว่าภาษาเกาหลีเขียนง่าย, อ่านง่าย แต่พูดยาก เห็นด้วยเป็นอย่างยิ่ง
เพราะเรียนแค่พื้นฐานเล่มเดียวก็สามารถอ่านออกเขียนได้แล้ว
แต่จะพูดหรือเข้าใจความหมายต้องใช้เวลา สะสมความรู้ไปอีกเรื่อยๆ
แม้กระทั่งคำศัพท์เกี่ยวกับคำกริยาต่างๆยังต้องผันเป็นภาษาพูดเสียก่อนถ้าไม่ผัน
ก็จะเป็นการพูดที่ไม่สุภาพมากๆ ในภาษาเกาหลีประโยคที่มีความหมายเดียวกัน
แต่สามารถพูดได้หลายแบบ เนื่องจากถูกแบ่งไว้ใช้ในระดับความสุภาพที่ต่างกัน
เช่นคำทักทาย คำสวัสดี
– 안녕하십니까? อันยอง ฮา-ชิม-นี-ก้า?
สุภาพมาก ใช้เป็นทางการ ใช้กับผู้ใหญ่ เจ้านาย หรือคนที่เรายกย่องนับถือ
– 안녕하세요? อันยอง ฮา-เซ-โย๊?
สุภาพ ใช้ในชีวิตประจำวัน ใช้กับคนเพิ่งรู้จัก ไม่สนิท
– 안녕 อันยอง .
ใช้กับคนสนิท , เพื่อน, คนที่อายุน้อยกว่า
ทบทวนไวยากรณ์ (문법)
ประโยคคำถามแบบสุภาพและเป็นทางการ Vstem.(ㅂ) 스니까?
Vstem. ลงท้ายด้วยสระ 가다 : 가 + ㅂ니까 = 갑니까?
Vstem. ลงท้ายด้วยตัวสะกด 먹다 : 먹 + 습니까 = 먹습나까?
ประโยคบอกเล่าแบบสุภาพและเป็นทางการ Vstem. (ㅂ) 습나다
Vstem. ลงท้ายด้วยสระ 가다 : 가 + ㅂ니다 = 갑니다.
Vstem. ลงท้ายด้วยตัวสะกด 먹다 : 먹 + 습니다 = 먹습나다.
ประโยคคำถามและบอกเล่าในรูป 요. เป็นประโยคแบบสุภาพและใช้พูดทั่วไปในชีวิตประจำวัน
คราวนี้เรามาดูเรื่องปัจจัยยกย่อง/แสดงความนอบน้อมต่อผู้ที่เราสนทนาด้วย หรือผู้ที่เรากล่าวถึง
시 คือปัจจัยยกย่องที่เติมหลังคำกริยาเมื่อกล่าวถึงผู้ใหญ่ หรือผู้ที่เราควรแสดงความเคารพนอบน้อม
โดยทั่วไปจะไม่กล่าวถึงคนที่มีวัยวุฒิน้อยกว่าตัวเอง และห้ามใช้ในประโยคที่กล่าวถึงตัวเอง
การใช้ปัจจัย 시
1.ใช้ในประโยคคำถาม เพื่อแสดงความสุภาพหรือยกย่องผู้ที่เราสนทนาด้วย V+(으) 십니까?
2.ใช้ในประโยคบอกเล่า โดยประโยคบอกเล่าต้องเป็นการกล่าวถึงบุคคลอื่นเพื่อแสดงความยกย่องบุคคลนั้น
เช่น คุณย่า, คุณพ่อ, คุณครู ฯลฯ และห้ามใช้กล่างถึงตัวเอง เพราะเรายกย่องตัวเองไม่ได้ V + (으) 십니다.
3.ใช้ในประโยคคำสั่งแบบสุภาพ แปลว่า “กรุณา” หรือ “เชิญ” เช่น เชิญนั่ง , เชิญอ่าน,
กรุณาพูดภาษาเกาหลี ฯลฯ V + (으) 세요. (ใช้ในประโยคคำถาม บอกเล่า และคำสั่งแบบสุภาพ)
วิธีการเติมดูที่การลงท้ายของ v.stem เหมือนเดิม คือ ตัด 다 ทิ้งถ้าลงท้ายด้วยสระ
ให้เติม십니까 / 십니다 / 세요 แต่ถ้าลงท้ายด้วยตัวสะกดให้เติม 으십니까 / 으십니다 / 으세요
ตัวอย่าง
A : 어디에 가십니까? ออ-ดิ-เอ คา-ชิม-นี-ก้า? = ไปไหนหรือคะ
B : 병원에 갑니다. พยอง-วอ-เน คัม-นิ-ดา = ไปโรงพยาบาล
หมายเหตุ : A ถามด้วยปัจจัย 시 แสดงความยกย่อง B แต่ B เป็นผู้ตอบจะตอบแบบใช้ปัจจัยยกย่องไม่ได้
A : 할아버지가 무엇을 하삽나까?
ฮา-รา-บอ-จี-กา มู-ออ-ซึล ฮา-ชิม-นี-ก้า? = คุณปู่ทำอะไรหรือคะ?
B : 할아버지가 신문을 읽으십니다
ฮา-รา-บอ-จี-กา ชิน-มู-นึล อิล-กือ-ชิม-นี-ดา = คุณปู่อ่านหนังสือพิมพ์
หมายเหตุ : B ตอบโดยใช้ปัจจัยยกย่องได้เพราะกล่าวถึงคุณปู่ไม่ใช่ตัวเอง
A : 할아버지가 무엇을 하세요?
ฮา-รา-บอ-จี-กา มู-ออ-ซึล ฮา-เซ-โย๊? = คุณปู่ทำอะไรหรือคะ?
B : 할아버지가 신문을 읽으세요.
ฮา-รา-บอ-จี-กา ชิน-มู-นึล อิล-กือ-เซ-โย = คุณปู่อ่านหนังสือพิมพ์
앉으세요. อัน-จือ-เซ-โย = เชิญนั่งคะ
읽으세요. อิล-กือ-เซ-โย = กรุณาอ่านคะ
쓰세요. ซือ-เซ-โย = กรุณาเขียนคะ
มีประโยคคำสั่ง/ แนะนำ/ ขอร้อง แบบสุภาพและเป็นทางการอีกรูปแบบหนึ่งคือ
V.stem (으) 십시오. วิธีใช้และความหมายเหมือนกับปัจจัย 시
쓰다 : 쓰 + 십시오 = 쓰십시오 ซือ-ชิบ-ชี-โอ = เชิญเขียน
여기에 앉으십시오. ยอ-กี-เอ อัน-จือ-ชิบ-ชี-โอ = กรุณานั่งที่นี่คะ
잠깐만 기다리십시오. ชัม-กัน-มัน คี-ดา-รี-ชิบ-ชี-โอ = กรุณารอสักครู่คะ
*** จะใช้ 마시세요.( มา-ชี-เซ-โย) หรือ 마시십시오. (มา-ชี-ชิบ-ชี-โอ)
ก็ได้ความหมายเดียวกันคือ “เชิญดื่มคะ”
ถามอาการเจ็บป่วย ไม่สบายกันบ้างหละกัน
아파요. มาจากคำว่า 아프다 ที่แปลว่า ไม่สบาย, เจ็บ, ปวด
| โครงสร้างประโยค
| A : 어디가 아파요? ออ-ดิ-กา อา-พ่า-โย๊?
| ถาม : ไม่สบาย,เจ็บ,ปวด ที่ไหน
| B : Noun + 이/가 아파요.
| ตอบ : คำนาม + คำชึ้ประธาน ตามด้วย아파요.
………………………………………………………………………………………………………
A : 어디가 아파요? ออ-ดิ-กา อา-พ่า-โย๊?
B : 머리가 아파요. มอ-รี-กา อา-พ่า-โย.
มารู้จักส่วนต่างๆในร่างกายของเราเรียกอะไรกันบ้างในภาษาเกาหลี
머리…… มอ-รี ……….หัว
얼굴…… ออล-กุล…… ใบหน้า
눈……… นุน…………… ตา
코……… โค่…………… จมูก
귀……… ควี …………… หู
입……… อิบ …………… ปาก
목……… มก ……………คอ
팔……… พั่ล …………… แขน
손……… ซน …………… มือ
등……… ทึง …………… หลัง
배……… แพ …………… ท้อง
허리…… ฮอ-รี …………เอว
다리…… ทา-รี ………… ขา
발……… พัล …………… เท้า
A : 어디가 아파요?
ออ-ดิ-กา อา-พ่า-โย๊? = เจ็บตรงไหนหรือคะ?
B : 눈이 아파요.
นู-นี อา-พ่า-โย. = เจ็บตาคะ
A : 다리가 아파요?
ทา-รี-กา อา-พ่า-โย๊? = เจ็บขาหรือคะ?
B : 아니요, 발이 아파요.
อา-นี-โย, พา-รี อา-พ่า-โย = ไม่คะ เจ็บเท้า
A : 머리가 아파요?
มอ-รี-กา อา-พ่า-โย๊? = ปวดหัว หรือคะ?
B : 네, 머리가 아파요.
เน, มอ-รี-กา อา-พ่า-โย. = ใช่คะ ปวดหัว
คุยเรื่องสภาพอากาศกันหน่อยนะ
A : 날씨가 어때요? นัล-ชี่-กา ออ-แต-โย๊? = อากาศเป็นอย่างไร?
B : 날씨가 추워요. นัล-ชี่-กา ชู่-วอ-โย. = อากาศหนาว
คำศัพท์
날씨 (นัล-ชี่) ….. อากาศ
춥다 (ชุบ-ต้า)…..หนาว
덥다 (ท็อบ-ต้า) ….. ร้อน
어떻다 (ออ-ตอ-ท่า) ….. เป็นอย่างไร
비가 오다 (พี-กา โอ-ดา) ….. ฝนตก
눈이 오다 (นู-นี โอ-ดา) ….. หิมะตก
따뜻하다 (ตา-ตือ-ท่า-ดา) ….. อบอุ่น
시원하다 (ชี-วอน-ฮา-ดา) ….. เย็น
날씨가 좋다 (นัล-ชี่-กา โช-ท่า) ….. อากาศดี
날씨가 나쁘다 (นัล-ชี่-กา นา-ปือ-ดา)…..อากาศไม่ดี
บทสนทนา
A : 날씨가 더워요? นัล-ชี่-กา ทอ-วอ-โย๊? = อากาศร้อนไหม?
B : 아니요, 날씨가 시원해요. อา-นี-โย, นัล-ชี่-กา ชี-วอน-แฮ-โย. = ไม่, อากาศเย็น
A : 비가 와요? พี-กา วา-โย๊? = ฝนตกไหม?
B : 네, 비가 와요. เน, พี-กา วา-โย . = ใช่ ฝนตก.
A : 눈이 와요? นู-นี วา-โย๊? = หิมะตกไหม?
B : 아니요, 눈이 안 와요. อา-นี-โย นู-นี อัน วา-โย. = ไม่ หิมะไม่ตก
A : 추워요? ชู่-วอ-โย๊? = หนาวไหม?
B : 아니요, 더워요. อา-นี-โย, ทอ-วอ-โย. = ไม่คะ, ร้อน
A : 날씨가 어때요? นัล-ชี่-กา ออ-แต-โย๊? = อากาศเป็นอย่างไร?
B : 날씨가 좋아요. นัล-ชี่-กา โช-อา-โย. = อากาศดี
A : 시원해요? ชี-วอน-แฮ-โย๊ ? = เย็นไหม
B : 아니요, 추워요. อา-นี-โย, ชู่-วอ-โย . = ไม่คะ, หนาว
A : 날씨가 나빠요? นัล-ชี่-กา นา-ปา-โย๊ ? อากาศไม่ดีเหรอ?
B : 네, 날씨가 나빠요. เน, นัล-ชี่-กา นา-ปา-โย ค่ะ, อากาศไม่ดี
A : 날씨가 어때요? นัล-ชี่-กา ออ-แต-โย๊? = อากาศเป็นอย่างไร?
B : 날씨가따뜻해요. นัล-ชี่-กา ตา-ตือ-แฮ-โย. = อากาศอบอุ่น
คำศัพท์เพิ่มเติม
มารวบรวมคำศัพท์เพิ่มเติมในภาษาเกาหลีเบื้องต้นกันซะหน่อยว่ามีอะไรอีกบ้าง
มีหลายคำ ออกเสียงแล้วจะรู้สีกคุ้นๆ ก็เพราะเป็นการอ่านทับศัพท์ในภาษาอังกฤษนั่นเอง
แต่จะเพี้ยนๆไปนิดหน่อย เวลาอ่านออกเสียงก็ออกเสียงตามภาษาอังกฤษได้เลยแต่เขียนยังไงก็ต้องจำ
เช่นคำว่า파인애플 (พ่า-อิ-แน-พึล) ก็คือ พายแอปเปิ้ล ที่แปลว่า สัปปะรด นั่นเอง
และมีคำศัพท์แบบนี้เยอะเหมือนกันนะ
ผัก-ผลไม้
파…………… พ่า …………… ต้นหอม
고추 …….. โค-ชู่ ………. พริก
오이 ……… โอ-อี ………. แตงกวา
포도 ……… โพ่-โด …….. องุ่น
수박 ……… ซู-บัก ………. แตงโม
사과 ………. ซา-กวา ……… แอปเปิ้ล
딸기………. ตัล-กี ………….สเตอเบอรี่
바나나 ………. พา-นา-นา ………. กล้วย
토마토 ………. โท-มา-โท่ ………. มะเขือเทศ
오렌지………. โอ-เรน-จี ………. ส้ม
파인애플 ………. พ่า-อิ-แน-พึล ………. สัปปะรด
สัตว์ต่างๆ
소 …………… โซ …………… วัว
개 ……………. แค ……………. สุนัข
게 ……………. เค …………… ปู
새 …………… แซ …………… นก
곰 …………… คม …………… หมี
쥐 …………… ชวี …………… หนู
나비 ………. นา-บี ………. ผีเสื้อ
사자 ………. ซา-จา ………. สิงโต
오리 ………. โอ-รี ……….. เป็ด
거미 ………. คอ-มี ………. แมงมุม
돼지 ………. ทแว-จี ………. หมู
개미 ………. แค-มี ………. มด
토끼 ………. โท่-กี ………. กระต่าย
토끼리 ………. โท่-กี-รี ……….ช้าง
원숭이 ………. วอน-ซุง-อี ………. ลิง
고양이 ………. โค-ยัง-อี ………… แมว
ของกิน
밥…………… พับ …………… ข้าวสวย
물 …………… มุล …………… น้ำ
차 …………… ช่า …………… น้ำชา
빵 …………… ปัง …………… ขนมปัง
감치……… คิม-ชี่ ………… กิมจิ
고기……… โค-กี ………… เนื้อ
커피 ………. คอ-พี่ ………. กาแฟ
우유 ………. อู-ยู …………. นม
멕주 ………. แม๊ก-จู………. เบียร์
계란 ………. เค-รัล ………. ไข่
국수 ………. คุก-ซู ………. ก๋วยเตี๋ยว
불고기….. พุล-โก-กิ ….. เนื้อย่างเกาหลี
햄버거….. แฮม-บอ-กอ….. แฮมเบอเกอร์
케이크 ….. เค่-อิ-คือ ……… เค้ก
아이스크림….. อา-อี-ซือ-คือ-ริม …..ไอศครีม
ของใช้
옷 …………… อด …………… เสื้อผ้า
차 …………… ช่า …………… รถยนต์
치마 ………. ชี่-มา ………. กระโปรง
바지 ………. พา-จี ………. กางเกง
구두 ………. คู-ดู ………. รองเท้า
모자 ………. โม-จา ………. หมวก
비누 ………. พี-นู ………. สบู่
휴지 ………. ฮยู-จี ………. ทิชชู
의자 ………. อึย-จา ………. เก้าอี้
시계 ………. ชี-เก ………. นาฬิกา
전화 ………. ชอน-ฮวา………. โทรศัทพ์
안경 ………. อัน-กยอง ………. แว่นตา
가방 ………. คา-บัง ………. กระเป๋า
연필………. ยอน-พิล ………. ดินสอ
볼펜 ………. พล-เพ่น ………. ปากกา
지우개……..ชี-อู-แก …….. ยางลบ
도시락 ……..โท-ชี-รัก…….. กล่องข้าว
타자기…….. ทา-จา-กี …….. เครื่องพิมพ์ดีด
컴퓨터…….. คอม-พยู-ท่อ…….. คอมพิวเตอร์
텔레비전 ……..เทล-เร-บี-จอน….. โทรทัศน์
ค่อยๆสะสมและจดจำคำศัทพ์ไปเรื่อยๆ ก็จะพูดได้มากขึ้น สู้..สู้ กันต่อไปนะคะ
บทสนทนาเพิ่มเติม
และแล้วก็เรียนกันจบไป 1 เล่มแล้วคะสำหรับ “ภาษาเกาหลีระดับพื้นฐาน
” ต่อไปก็จะเป็น “ภาษาเกาหลีชั้นต้น 1” แต่ก่อนจะเรียนชั้นต่อไป มีบทสนทนามาเพิ่มเติมด้วยคะ
ที่นี่/ ที่นั่นคือที่ไหน
여기(ยอ-กี) = ที่นี่ / 거기(คอ-กี) = ที่นั่น / 저기(ชอ-กี) = (ที่โน้น)
A : 여기가 어디예요? ยอ-กี-กา ออ-ดิ เย-โย๊?
หรือ 여기가 어디입니까? ยอ-กี-กา ออ-ดิ อิม-นี-ก้า?
여기 (ที่นี่) 가 (คำชี้ประธาน) 어디(ที่ไหน) 예요/입니까 (คือ)
วิธีการแปลเริ่มต้นที่ประธานแล้วแปลจากหลังไปหน้า = ที่นี่คือที่ไหน?
B : ใช้ N. + 예요 (เย-โย) เมื่อคำนามลงท้ายด้วยสระ
ใช้ N. + 이에요. (อิ-เอ-โย) เมื่อคำนามลงท้ายด้วยตัวสะกด
เช่น
A : 여기가 어디예요? /ยอ-กี-กา ออ-ดิ เย-โย๊? /ที่นี่คือที่ไหน?
B : 학교예요. ฮัก-คโย-เย-โย / คือ โรงเรียน
A : 여기가 어디예요? /ยอ-กี-กา ออ-ดิ เย-โย๊? /ที่นี่คือที่ไหน?
B : 식당이에요. ชิก-ตัง-อี-เย-โย / คือ ร้านอาหาร
A : 거기가 어디예요? /คอ-กี-กา ออ-ดิ เย-โย๊? /ที่นั่นคือที่ไหน?
B : 옷가게예요. อด-กา-เก-เย-โย / คือ ร้านขายเสื้อผ้า
A : 거기가 어디예요? /คอ-กี-กา ออ-ดิ เย-โย๊? /ที่นั่นคือที่ไหน?
B : 시원의집이에요. ชี-วอน-เอ-ชี-เบ-เอ-โย / คือ บ้านของชีวอน
คนนั้น/คนนี้คือใคร / ชื่ออะไร
그 (คือ) = นั้น / 이 ( อี) = นี้
A : 그 분이 누구예요? คือ พู-นี นู-กู-เย-โย๊?
그(นั้น) 분(มีความหมายเดียวกับ 사람คือ”คน” แต่분 เป็นคำยกย่องจึงแปลว่า “ท่าน”)
이(เป็นคำชี้ประธาน) 누구 (ใคร) 예요 (คือ) แปลเริ่มต้นที่ประธานแล้วแปลจากหลังมาหน้า = ท่านนั้นคือใคร
B : 의사예요. อึย-ซา-เย-โย = คือ คุณหมอ
A : 그 분이 누구예요? คือ พู-นี นู-กู-เย-โย๊? /ท่านนั้นคือใคร
B : 선생님이에요. ซอน-แซง-นี-มี-เอ-โย / คือ อาจารย์
A : 이 사람이 누구예요? อี ซา-รา-มี นู-กู-เย-โย๊? /(คนนี้ คือใคร)
B : 제 친구예요. เช ชิ่น-กู เย-โย. /(คือ เพื่อนของฉัน)
A : 이름이 뭐예요? อี-รือ-มี มวอ-เย-โย๊? / ชื่ออะไรหรือ?
B : 감희줄이에요. คือ คิม-ฮี-ชุล (แปลแบบไทยก็ต้องตอบว่า ชื่อคิมฮีชุล)
A : 이 사람이 누구예요? อี ซา-รา-มี นู-กู-เย-โย๊? /คนนี้คือใคร
B : 한국 배우예요. ฮัน-กุก แพ-อู-เย-โย / คือ นักแสดงเกาหลี
A : 이름이 뭐예요? อี-รือ-มี มวอ-เย-โย๊? /ชื่ออะไร
B : 이준기예요. อี-จุน-กิ เย-โย /ชื่ออีจุนกิ
คำศัทพ์เกี่ยวกับอาชีพ (직업)
의사……….อึย-ซา ………. หมอ
배우………. แพ-อู ………. นักแสดง
가수 ………. คา-ซู ………. นักร้อง
모델 ………. โม-เดล ………. นางแบบ/ นายแบบ
상인 ………. ซัง-อิน ………. พ่อค้า / แม่ค้า
경찰 ………. คยอง-ชั่ล …… ตำรวจ
기지 ………. คิ-จา …………. นักข่าว
태통령….. แท-ท่ง-รยอง…..ประธานาธิบดี
선생님….. ซอน-แซง-นิม ………. ครู
공무원….. ทง-มู-วอน …………… ข้าราชการ
사업가….. ซา-ออบ-กา …………. นักธุรกิจ
음악가 ….. อือ-มัก-กา ………… นักดนตรี
가이드 ….. คา-อิ-ดือ …………… ไกด์
은행원 ….. อึน-เฮง-วอน ……… พนักงานธนาคาร
회사원 ….. ฮเว-ซา-วอน ………. พนักงานบริษัท
변호사 ….. พยอน-โฮ-ซา ……… ทนายความ
간호사 ….. คัน-โฮ-ซา ………….. พยาบาล
엔지니어 …… เอน-จิ-นิ-ออ …….. เอ็นจิเนียร์
เฉลยแบบฝึกหัดเรื่องคำชี้ประธาน,ชี้กรรม,ชี้สถานที่
1. 우유……를…… 마셔요.
(อู-ยู-รึล มา-ชยอ-โย) / ดื่มนม
2. 어디…..에……. 가요.
(ออ-ดี-เอ คา-โย๊) / ไปที่ไหนหรือคะ
3. 오빠…..가……. 있어요?
(โอ-ป้า-กา อิ-ซอ-โย๊) / พี่ชายอยู่ไหมคะ
4. 친구……가…… 와요.
(ชิ่น-กู-กา วา-โย) / เพื่อนมา
5. 누나…..가……. 아파요.
(นู-นา-กา อา-พ่า-โย) / พี่สาวไม่สบาย
6. 영화…..를……. 봐요.
(ยอง-ฮวา-รึล บวา-โย) / ดูหนัง
7. 언니…..가…….. 예뻐요.
(ออน-นี-กา เย-ปอ-โย) / พี่สาวสวย
8. 영화…..가……. 재미있어요.
(ยอง-ฮวา-กา แช-มี-อิ-ซอ-โย) / หนังสนุก
9. 시계…..가……. 비싸요.
(ชี-เก-กา พี-ซา-โย) / นาฬิกาแพง
10. 선생님…..이……. 전화해요.
(ซอน-แซง-นี-มี ชอน-ฮวา-แฮ-โย) / อาจารย์โทรศัพท์
11. 친구….가…….. 한국…..에……. 가요.
(ชิ่น-กู-กา ฮัน-กู-เก คา-โย) / เพื่อนไปประเทศเกาหลี
12. 아버자…..가……. 어디…..에……. 있어요?
(อา-บอ-จี-กา ออ-ดิ-เอ อิ-ซอ-โย๊? / พ่ออยู่ที่ไหนหรือคะ
13. 여동생 ….이…….. 서점…..에서……… 책….을…… 사요.
(ยอ-ดง-แซ-งี ซอ-จอ-เม-ซอ แซ-กึล ซา-โย) / น้องซื้อหนังสือที่ร้านขายหนังสือ
14. 어디…..에서……. 옷 ….을…… 사요?
(ออ-ดิ-เอ-ซอ โอ-ซึล ซา-โย๊?) / ซื้อเสื้อผ้าที่ไหนหรือคะ
15. 동생…..이……어디….에서…….한국어…..를…….공부해요?
(ดง-แซ-งี ออ-ดิ-เอ-ซอ ฮัน-กู-กอ-รึล คง-บู-แฮ-โย๊? ) / น้องเรียนภาษาเกาหลีที่ไหนหรือคะ
1. แม่ไปที่ประเทศญี่ปุ่น
어머니가 일본에 가요. / ออมอนีกา-อิลโบเน-คาโย
2. คุณครูมาที่บ้าน
선생님이 와요. / ซอนแซงนีมี-วาโย
3. ไปที่ไหนหรือคะ
이디에 가요? / ออดิเอ-คาโย๊?
4. พี่ชายทำงานที่บริษัท
오빠가 회사에서 일해요. / โอป้ากา-ฮเวซาเอซอ-อิลแฮโย
5. พ่อไปไหน
아버지가 가요? / อาบอจีกา-คาโย๊?
6. พี่สาวทำการบ้านที่บ้านเพื่อน
언니가 친구에서 숙재해요. / ออนนีกา-ชิ่นกูเอซอ-ซุกเจแฮโย
7. ฉันอ่านหนังสือที่ห้องสมุด
저는 도서관에서 책을 읽어요.
ชอนึน-โทซอกวาเนซอ-แซกึล-อิลกอโย
8. ทำอะไรที่บ้านเพื่อน
친구집에서 뭐해요? / ชิ่นกูชีเบซอ-มวอแฮโย๊?
9. น้องสาวอยู่ที่ประเทศเกาหลี
여동생이 한국에 있어요. / ยอดงแซงี-ฮันกูเก-อิซอโย
10. น้องชายไม่อยู่ที่ประเทศไทย
남동생이 태국에 없어요. / นัมดงแซงี-แทกูเก-ออบซอโย
11. น้องอยู่ที่ไหน
동생이 어디에 있어요? / ดงแซงี-ออดิเอ-อิซอโย๊?
12. ฉันดูหนังที่ห้างสรรพสินค้า
제가 백과점에서 영화를 봐요.
เชกา-แพควาจอเมซอ-ยองฮวารึล-บวาโย.
13. พี่สาวกินข้าวที่ร้านอาหาร
누나가 식당에서 밥을 먹어요.
นูนากา-ชิกตังเอซอ-พาบึล-มอกอโย.
14. แม่ซื้อแอปเปิ้ลที่ตลาด
어머니가 시장에서 사과를 사요.
ออมอนีกา-ชีจังเอซอ-ซากวารึล-ซาโย
15. พ่ออยู่ที่บริษัทหรือเปล่า
아버지가 회사에 있어요?
อาบอจีกา-ฮเวซาเอ-อิซอโย๊?
แบบฝึกหัดเรื่องคำชี้ประธาน,ชี้กรรม,ชี้สถานที่
จงเติมคำช่วย 이/가, 을/를, 에/에서 ลงในช่องว่างให้ถูกต้อง
1. 우유………… 마셔요.
2. 어디………… 가요?
3. 오빠………… 있어요?
4. 친구………… 와요.
5. 누나………… 아파요.
6. 영화………… 봐요.
7. 언니………… 예뻐요.
8. 영화………… 재미있어요.
9. 시계………… 비싸요.
10. 선생님………… 전화해요.
11. 친구………… 한국………… 가요.
12. 아버자………… 어디………… 있어요?
13. 여동생 ………… 서점…………. 책………… 사요.
14. 어디………… 옷 ………… 사요?
15. 동생……….. 어디………… 한국어………… 공부해요?
แต่งประโยคต่อไปนี้เป็นภาษาเกาหลี
1. แม่ไปที่ประเทศญี่ปุ่น
2. คุณครูมาที่บ้าน
3. ไปที่ไหนหรือคะ
4. พี่ชายทำงานที่บริษัท
5. พ่อไปไหน
6. พี่สาวทำการบ้านที่บ้านเพื่อน
7. ฉันอ่านหนังสือที่ห้องสมุด
8. ทำอะไรที่บ้านเพื่อน
9. น้องสาวอยู่ที่ประเทศเกาหลี
10. น้องชายไม่อยู่ที่ประเทศไทย
11. น้องอยู่ที่ไหน
12. ฉันดูหนังที่ห้างสรรพสินค้า
13. พี่สาวกินข้าวที่ร้านอาหาร
14. แม่ซื้อแอปเปิ้ลที่ตลาด
15. พ่ออยู่ที่บริษัทหรือเปล่า
คำช่วยแสดงสถานที่ 에 / 에서
นอกจากจะมีคำชี้ประธาน, ชี้กรรม แล้วยังต้องมีคำช่วยแสดงสถานที่อีกคะ
เราเป็นคนที่ชอบดูซีรีย์เกาหลีแบบบรรยายไทย เมื่อก่อนก็สงสัยว่า
เขาพูดกันยาวเชียวทำไมคำแปลมันออกมาสั้นนิดเดียว พอได้เรียนภาษาเกาหลี
ถึงได้รู้ว่าก็เพราะเจ้าคำชี้โน้นชี้นี้ที่ไม่มีความหมายมันเยอะ เลยทำให้ประโยคยาว
คำช่วยแสดงสถานที่ 에 (Direction) เป็นการชี้สถานที่ที่เป็นจุดหมายปลายทาง
มักใช้ร่วมกับคำกริยาที่แสดงการเคลื่อนที่ เช่น 가다 (ไป) , 오다(มา) , 돌아가다(กลับไป) ,
돌어가다(เข้าไป), 놀아가다(ไปเที่ยว) , 내려가다(ลงไป) , 걸어가다(เดินไป)
เป็นต้น จำง่ายๆที่ลงท้ายด้วย 가다 กับ 오다 จะใช้ 에 เป็นคำช่วยแสดงสถานที่ เช่น
아버자가 한곡에 가요. = พ่อไปที่ประเทศเกาหลี
อาบอจีกา ฮันกูเก คาโย
친구가 집에 와요. = เพื่อนมาที่บ้าน
ชิ่นกูกา ชีเบ วาโย
준수씨가 태국에 가요? = คุณจุนซูไปประเทศไทยหรือคะ?
จุนซูชี่กา แทกูเก คาโย๊?
어디에 가요? = ไปไหนหรือคะ?
ออดิเอ คาโย๊?
(Location) ชึ้สถานที่ที่สิ่งใดมีอยู่ หรือไม่ได้มีอยู่ ใช้ร่วมกับคำกริยา 있다 , 없다
เป็นลักษณะประโยคที่แสดงว่า อะไร/ใครอยู่/ไม่ได้อยู่ที่ไหน เช่น
아버자가 한곡에 있어요. = พ่ออยู่ที่ประเทศเกาหลี
อาบอจีกา ฮันกูเก อิซอโย.
아버자가 태국에 없어요. = พ่อไม่ได้อยู่ที่ประเทศไทย
อาบอจีกา แทกูเก ออบซอโย.
선생님이 학교에 있어요? = อาจารย์อยู่ที่โรงเรียนหรือเปล่าคะ?
ซอนแซงนีมี ฮักคโยเอ อิซอโย๊?
여동생이 어디에 있어요? = น้องสาวอยู่ที่ไหนหรือคะ?
ยอดงแซงี ออดิเอ อิซอโย๊?
*** จำง่ายๆ คำช่วยแสดงสถานที่ 에(เอ) ใช้กับกริยา 가다 (คา-ดา), 오다 (โอ-ดา),
있다 (อิซ-ต้า), 없다 (ออบ-ต้า) เท่านั้นส่วนกริยาอื่นๆใช้ 에서 (เอ-ซอ)
에서 + Action Verb
– ชี้สถานที่ที่มีการกระทำเกิดขึ้น ใช้ร่วมกับคำกริยาการกระทำ
– เป็นลักษณะประโยคที่แสดงว่าใครทำอะไรที่ไหน
– โครงสร้างประโยค คือ
[Subjuct (이/가) + Place (에서) +Objuct(을/를) + Verb (Sentense Ending)]
เช่น
아버자가 한곡에서 일해요? = คุณพ่อทำงานที่ประเทศเกาหลีหรือคะ?
อาบอจีกา ฮันกูเกซอ อิลแฮโย๊?
제가 집에서 숙제해요. = ฉันทำการบ้านที่บ้าน
เชกา ชีเบซอ ซุกเจแฮโย
어디에서 공부합니까? = เรียนที่ไหนหรือคะ ?
ออดิเอซอ คงบูฮัมนิก้า?
백화점에서 뭐 해요? = ทำอะไรที่ห้าง?
แพควาจอเมซอ มวอแฮโย๊?
มารู้จักสถานที่กันก่อนแล้วค่อยทำแบบฝึกหัด
집……….ชิบ…….บ้าน
친구 집……ชิ่นกู-ชิบ…….บ้านเพื่อน
회사……….ฮวา-ซา……บริษัท
학교……….ฮัก-คโย…..โรงเรียน
시장……….ชี-จัง……… ตลาด
식당……….ชิก-ตัง…..ร้านอาหาร
가게……….คา-เก…….ร้านค้า
서점……….ซอ-จอม…..ร้านหนังสือ
병원……….พยอง-วอน…..โรงพยาบาล
은행……….อึน-แฮง……… ธนาคาร
공항……….คง-ฮัง ……….สนามบิน
호텔……….โฮ-เทล……..โรงแรม
태국……….แท-กุก………ประเทศไทย
한국……….ฮัน-กุก………ประเทศเกาหลี
미국……….มี-กุก………..ประเทศอเมริกา
중국……….ชุง-กุก……… ประเทศจีน
일본……….อิล-บน………ประเทศญี่ปุ่น
도서관……โด-ซอ-กวาน…..ห้องสมุด
대학교……แท-ฮัก-คโย…….มหาวิทยาลัย
백화점……แพ-ควา-จ๋อม…..ห้างสรรพสินค้า
사무실……ซา-มู-ชิล………..สำนักงาน
대사관……แท-ซา-กวาน…..สถานทูต
옷가게……อด-กา-เก……….ร้านขายเสื้อผ้า
운동장……อุน-ดง-จัง………สนามกีฬา
경찰서……คยอง-ชั่ล-ซอ……สถานีตำรวจ
คำช่วยแสดงประธาน และกรรมในประโยค
เมื่อเราผันกริยาเป็นก็จะสามารถแต่งประโยคสั้นๆได้แล้วนะคะแต่ต้องมารู้จักคำชี้ประธาน,
ชี้กรรมกันก่อน คำชี้ประธาน, คำชี้กรรมไม่มีความหมายแต่ต้องใส่เพื่อให้รู้ว่าคำไหน
ทำหน้าที่เป็นประธานหรือเป็นกรรมในประโยค
คำช่วยแสดงประธาน 이/가
วางไว้หลังคำนามเพื่อแสดงให้เห็นว่าคำนามนั้นทำหน้าที่เป็นประธานของประโยค
วิธีการเติม วาง 이 ไว้หน้าคำนามที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด
가방 + 이 –> 가방이 예뻐요. คาบางี เยปอโย (กระเป๋าสวย)
วาง가 ไว้หน้าคำนามที่ลงท้ายด้วยสระ
오빠 + 가 –> 오빠가 전화해요 โอป้ากา ชอนฮวาแฮโย (พี่ชายโทรศัพท์)
นอกจาก 이/가 ที่ทำหน้าที่ชี้ประธานยังมีอีกที่ทำหน้าที่ชี้ประธานคือ 은, 는 โดย
은, 는ใช้ชี้เฉพาะเจาะจง ส่วน이/가 ไม่ชี้เฉพาะเจาะจง กล่าวทั่วๆไป
วิธีการเติม
วาง 은 ไว้หน้าคำนามที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด
옷 + 은 –> 옷은 비쌉니다. โอ-ซึน พี-ซัม-นี-ดา (เสื้อแพง)
วาง 는 ไว้หน้าคำนามที่ลงท้ายด้วยสระ
오빠 + 는 –> 오빠는 운동해요. โอ-ป้า-นึน อุน-ดง-แฮ-โย (พี่ชาย ออกกำลังกาย
สำหรับใช้กับคำว่า “ฉัน” ใช้ได้ทั้ง 저는 (ชอ-นึน) หรือ 제가(เช-กา) / 내가 (แน-กา)
แต่ 2 คำหลังต้องใช้คู่กับ 가 เท่านั้น เพราะถ้าคำเดียวจะแปลว่า ของฉัน
ลองแต่งประโยคโดยใส่คำชี้ประธานของคำที่ให้มาหน่อยนะคะและเป็นการทบทวน
การผันกริยาท้ายประโยคด้วย จะใช้รูปแบบ (ㅂ) 습니다 หรือ아/어 요 ก็ได้คะตามใจชอบ
เช่น 동생 / 귀엽다 –> 동생 이 귀여위요.
1. 강인 오빠 (คัง-อิน โอ-ป้า) พี่คังอิน / 아프다 (อา-พือ-ดา) ไม่สบาย, ปวด
2. 언니 (ออน-นี) พี่สาว / 전화하다 (ชอน-ฮวา-ฮา-ดา) โทรศัพท์
3. 딸 기 (ตัล-กี) สเตอเบอรี่ / 맛있다 (มา-ชิซ-ต้า) อร่อย
คำช่วยแสดงกรรม 을 / 를
วางไว้หลังคำนามเพื่อแสดงให้เห็นว่าคำนามนั้นทำหน้าที่กรรมในประโยค
โดยใช้ร่วมกับคำกริยาที่ต้องการกรรมมาเติมเต็ม โครงสร้างประโยค Subjuct + Objuct + Verb (ที่ผันแล้ว)
การแปลความหมายขึ้นต้นประโยคด้วยประธานแล้วแปลจากหลังไปหน้า
วิธีเติม
วาง을 หลังคำนามที่ลงท้ายด้วยตัวสะกด
저는 책을 읽어요. ชอ-นึน แช-กึล อิล-กอ-โย = ฉันอ่านหนังสือ
(저 + คำชี้ประธาน는 / 책 + คำชี้กรรม 을 / Verb ที่ผันแล้ว -읽어요)
วาง를 หลังคำนามที่ลงท้ายด้วยสระ
동생이 사과를 먹어요. ทง-แซ-งี ซา-กวา-รึล มอ-กอ-โย = น้องกินแอปเปิ้ล
동생+ คำชี้ประธาน이 / 사과+ คำชี้กรรม를 / Verb ที่ผันแล้ว – 먹어요
***무엇을 해요? ในรูป 요 –> 무엇 แปลว่าอะไร เติมชี้กรรม 을 + คำว่า해요(ทำ) = ทำอะไร?
แต่นิยมผสมคำจึงออกเสียงว่า 뭐 해요? มวอ-แฮ-โย๊? แต่ถ้าใช้กับคำกริยาอื่นๆก็ใช้ 무엇을 มู-ออ-ซึล
ตามปกติเช่น 무엇을 먹어요? มู-ออ-ซึล มอ-กอ-โย๊? = กินอะไร?
ถ้าคำกริยาลงท้ายด้วย 하다 จะใส่คำชี้กรรมหรือไม่ใส่ก็ได้ ยกเว้นคำว่า 촣아하다 ต้องใส่คำชี้กรรมด้วย
저는 숙제를 해요 หรือ 저는 숙제해요
***การสังเกตง่ายๆ ไม่ว่าจะเป็น 이/가, 은/ 는 หรือ 을 / 를 คำที่มีตัว ㅇ
มักจะตามคำที่ลงท้ายด้วยตัวสะกดเพราะจะเข้ากับกฎการโยงเสียง
ลองแต่งประโยคเหล่านี้ดูหน่อยนะคะ จะได้คล่องๆขึ้น
ตัวอย่าง
사과(แอปเปิ้ล) /사다(ซื้อ) –> 사과를 사요. หรือ 사과를 삽니다
1. 밥 (ข้าว) / 먹다 (กิน)
2. 물 (น้ำ) / 마사다 (ดื่ม)
3. 영화(ภาพยนตร์) / 보다 (ดู)
4. 숙제(การบ้าน) / 하다 (ทำ)
5. 고양이(แมว) / 좋아하다 (ชอบ)
ตัวอย่าง
어머니(แม่) /사과(แอปเปิ้ล)/사다(ซื้อ) –>어머니가 사과를 사요.
1. 언니 (พี่สาว) / 밥 (ข้าว) / 먹다 (กิน)
2. 오빠 โอ-ป้า / 물(น้ำ) / 마사다 (ดื่ม)
3. 동생(น้อง) / 숙제(การบ้าน) / 하다 (ทำ)
ตัวอย่าง
แม่ซื้อแอปเปิ้ล –> 어머니가 사과를 사요 หรือ
어머니가 사과를 삽나다.
1. ดูหนังหรือคะ
2. น้องกินข้าว
3. ฉันทำการบ้าน
เฉลยแบบฝึกหัดการผันกริยาในรูป 아/어 요
มาแล้วเฉลยแบบฝึกหัด ทำถูกหมดเลยใช่ไหมคะ?
가 다…………. ไป ……………가 요 (คา-โย)
오 다…………. มา …………….와 요 (วา-โย)
먹 다…………. กิน……………..먹 어 요 (มอ-กอ-โย)
하 다…………. ทำ……………..해 요 (แฮ-โย)
쓰 다…………. เขียน…………..써 요 (ซอ-โย)
읽 다…………. อ่าน…………….읽 어 요 (อิล-กอ-โย)
사 다…………. ซื้อ …………….사 요 (ซา-โย)
보 다…………. มอง/ดู………….봐 요 (บวา-โย)
싸 다…………. ถูก………………싸 요 (ซ่า-โย)
좋 다…………. ดี………………..좋 아 요 (โช-อา-โย)
있 다…………. มี/อยู่……………있 어 요 (อิ-ซอ-โย)
없 다…………. ไม่มี / ไม่อยู่……없 어 요 (ออบ-ซอ-โย)
춥 다…………. หนาว…………….추 워 요 (ชู่-วอ-โย)
덥 다…………. ร้อน……………..더 워 요 (ทอ-วอ-โย)
마 시 다……… ดื่ม……………….마 셔 요 (มา-ซยอ-โย)
일 하 다……… ทำงาน…………..일 해 요 (อิล-แฮ-โย)
만 나 다……… พบ……………….만 나 요 (มัน-นา-โย)
비 싸 다……… แพง………………비 싸 요 (พี-ซา-โย)
바 쁘 다……… ยุ่ง………………..바 빠 요 (พา-ป้า-โย)
맛 있 다……… อร่อย…………….맛 있 어 요 (มา-ชิ-ซอ-โย)
맛 없 다……… ไม่อร่อย…………맛 없 어 요 (มา-ด๊อบ-ซอ-โย)(คำยกเว้น)
귀 엽 다……… น่ารัก…………….귀 여 워 요 (ควี-ยอ-วอ-โย)
아 프 다……… ไม่สบาย/ปวด……아 파 요 (อา-พ่า-โย)
공 부 하 다….. เรียน……………..공 부 해 요 (คง-บู-แฮ-โย)
전 화 하 다…. โทรศัพท์…………전 화 해 요 (ชอน-ฮวา-แฮ-โย)
좋 아 하 다….. ชอบ………………좋 아 해 요 (โช-อา-แฮ-โย)
운 동 하 다….. ออกกำลังกาย……운 동 해 요 (อุน-ดง-แฮ-โย)
재 미 없 다….. ไม่สนุก……………재 미 없 어 요 (แช-มี-ออบ-ซอ-โย)
재 미 있 다….. สนุก……………….재 미 있 어 요 (แช-มี-อิ-ซอ-โย)
가 르 치 다….. สอน……………….가 르 쳐 요 (คา-รือ-จยอ-โย)
배 가 고 프 다….. หิว…………………배 가 고 파 요 (แพ-กา โค-พ่า-โย)
การลงท้ายประโยครูป 아/어 요
ภาษาเกาหลีจะมีการลงท้ายประโยคเพื่อแสดงระดับความสุภาพของภาษาด้วยตามที่ได้กล่าวไว้แล้ว
พูดง่ายๆก็คล้ายๆกับการเติมค่ะ/ครับเข้าไปที่ท้ายประโยคในภาษาไทย แต่ก็ไม่เหมือนซะทีเดียว
เพราะระดับภาษาของเกาหลีมีค่อนข้างเยอะ จึงมีการลงท้ายประโยคหลากหลายรูปแบบตามไปด้วย
อีกทั้งในภาษาเกาหลียังมีการเติมคำช่วยแสดง tense ไว้ที่คำลงท้ายเพื่อแสดง past tense หรือ
future tense และยังมีการเติมปัจจัยอื่นๆให้คนเรียนภาษาเกาหลีได้ปวดหัวกันอีกหลายเรื่องค่ะ
การลงท้ายประโยครูปโยนี้เป็นรูปปัจจุบัน ใช้เมื่อต้องการพูดอย่างสุภาพ ซึ่งเมื่อเปรียบเทียบกับ
การลงท้ายประโยคแบบสุภาพรูปอื่นๆ อย่างเช่น ซึมนีดา (습니다) แล้ว รูปโยถือว่าใช้กันทั่วไป
มากกว่าในชีวิตประจำวัน เพราะรูปซึมนีดาจะใช้พูดในลักษณะที่เป็นทางการ (และรูปโยยัง
สามารถดัดแปลงเป็นพันมัล หรือภาษาที่ใช้พูดกับคนที่สนิทสนมกัน เช่น เพื่อน
หรือพูดกับผู้ที่อายุน้อยกว่า ซึ่งการพูดในรูปแบบนี้จะได้ยินบ่อยเวลาดูหนัง)
아/어 요 [Present Tense]
วิธีการ
– ตัด 다 ท้ายคำศัพท์ทิ้ง เช่น 일어나다 –>일어나
– ดูสระในพยางค์สุดท้าย 일어나
1. ถ้าลงท้ายด้วยสระㅏ,ㅗ ให้เติม 아요
เช่น
นั่ง 앉다 –> 앉+아요 = 앉아요. (อัน-จา-โย)
มา *오다 –> 오+아요 = 와요. [*ㅗ+ㅏ = ㅘ] (วา-โย)
ตื่นขึ้น, ลุกขึ้น(จากเตียง ตรงกับ get up ในภาษาอังกฤษ)
*일어나다 –> 일어나+아요 = 일어나요 [*ㅏ+ㅏ = ㅏ] (อิ-รอ-นา-โย)
ดู, มอง, เจอ(ใช้ในประโยคคล้าย see you ในภาษาอังกฤษ) 보다 = 봐요 (บวา-โย)
กลับมา 돌아오다 = 돌아와요 (โท-รา-วา-โย)
ไม่เป็นไร, ใช้ได้, โอเค 괜찮다 = 괜찮아요 (เควน-ช่า-นา-โย)
2. ถ้าลงท้ายด้วยสระอื่นๆ นอกเหนือจาก ㅏ,ㅗ ให้เติม 어요.
สนุก 재미있다 –> 재미있 + 어요 = 재미있어요.(แช-มี-อิ-ซอ-โย)
กลายเป็น * 되다 –> 되 + 어요 = 되어요/ 돼요.(ทแว-โย)
ส่ง * 보내다 –> 보내 + 어요 = 보내요 [ㅐ+ㅓ=ㅐ] (โพ-แน-โย)
เรียนรู้ *배우다 = 배우 + 어요 = 배워요. [ㅜ+ㅓ = ㅝ] (แพ-วอ-โย)
ยืน *서다 = 서 + 어요 = 서요 [ㅓ+ㅓ = ㅓ] (ซอ-โย)
ถ้าลงท้ายด้วยสระ ㅣ (ไม่มีตัวสะกด) เปลี่ยนเป็น สระ ㅕ
ดื่ม * 마시다 –> 마시 + 어요 = 마셔요 [ㅣ+ㅓ=ㅕ] (มา-ซยอ-โย)
ถ้าลงท้ายด้วยสระ ㅡ (ไม่มีตัวสะกด) แล้วยังมีสระ ㅏ,ㅗ ข้างหน้า
สระㅡ จะเปลี่ยนเป็นสระ ㅏ เช่น 아프다 ตัด 다 แล้วเหลือ아프
ข้างหน้าสระ ㅡ มีสระㅏดังนั้นจึงเปลี่ยนเป็นสระ ㅏ = 아 파 요.
ถ้าลงท้ายด้วยสระ ㅡ แล้วยังมีสระข้างหน้าที่ไม่ใช่สระ ㅏ,ㅗ จะเป็นสระ 어
기 쁘 다 –> 기 쁘 = 기 뻐 요. (คี-ปอ-โย)
3. ถ้าลงท้ายด้วย 하 ให้เปลี่ยนเป็น –> 해요.
รัก 사랑하다 = 사랑해요.(ซา-รัง-แฮ-โย)
เรียน 공부하다 = 공부해요.(คง-บู-แฮ-โย)
มีความสุข 행복하다 = 행복해요.(แฮง-โบ-แค-โย)
แข็งแรง 건강하다 = 건강해요.(คอน-จัง-แฮ-โย)
ไม่ชอบ 싫어하다 = 싫어해요. (ชี-รอ-แฮ-โย)
4. ส่วนกริยาลงท้ายด้วย ㅂ ให้ตัด ㅂ ทิ้งแล้วเติม 워요 ไปเลยคะ
맵다 เมบ-ต้า (เผ็ด) —-> 매워요.(แม-วอ-โย)
고 맙 다 โค-มับ-ต้า (ขอบคุณ) —-> 고 마 워 요. (โค-มา-วอ-โย)
어 렵 다 ออ-รยอบ-ต้า (ยาก) —-> 어 려워 요. (ออ-รยอ-วอ-โย)
แต่มีคำยกเว้น 3 คำคือ
입 다 อิบ-ต้า (สวมเสื้อผ้า) —-> 입 어 요.(อิ-บอ-โย)
잡다 ชับ-ต้า (จับ) —-> 잡 아 요. (ชา-บา-โย)
좁 다 ชุบ-ต้า (แคบ) —-> 좁 아 요.(ชู-บา-โย)
*** ประโยคบอกเล่าและประโยคคำถามในรูป 아/어 요 จะหน้าตาเหมือนกัน
เพียงแค่ใส่เครื่องหมาย . ในประโยคบอกเล่า และเครื่องหมาย ? ในประโยคคำถาม
แต่เวลาออกเสียงให้ใช้เสียงสูงในประโยคคำถาม เช่น
A : 가요? คา-โย๊? = ไปไหม
B : 네, 가요. เน, คา-โย. = ไปคะ
มีแบบฝึกหัดมาให้ทำอีกตามเคย ลองเปลี่ยนรากศัพท์เหล่านี้ให้อยู่ในรูป 아/어 요
ผันกริยาเป็นแล้วก็จะแต่งประโยคสั้นๆได้แล้วหละ
가 다…………. ไป ……………
오 다…………. มา …………….
먹 다…………. กิน……………..
하 다…………. ทำ……………..
쓰 다…………. เขียน…………..
읽 다…………. อ่าน……………
사 다…………. ซื้อ ……………
보 다…………. มอง/ดู…………
싸 다…………. ถูก……………..
좋 다…………. ดี……………….
있 다…………. มี/อยู่…………..
없 다…………. ไม่มี / ไม่อยู่….
춥 다…………. หนาว………….
덥 다…………. ร้อน……………
마 시 다……… ดื่ม……………..
일 하 다……… ทำงาน…………
만 나 다……… พบ…………….
비 싸 다……… แพง……………
바 쁘 다……… ยุ่ง……………..
맛 있 다……… อร่อย………….
맛 없 다……… ไม่อร่อย……….
귀 엽 다……… น่ารัก…………..
아 프 다……… ไม่สบาย/ปวด..
공 부 하 다….. เรียน…………..
전 화 하 다…. โทรศัพท์………
좋 아 하 다….. ชอบ……………
운 동 하 다….. ออกกำลังกาย..
재 미 없 다….. ไม่สนุก………..
재 미 있 다….. สนุก……………
가 르 치 다….. สอน……………
배 가 고 프 다….. หิว…………….
ทำแบบฝึกหัดพร้อมกับรูป ㅂ(습니다) ก็ได้นะคะเพราะใช้คำกริยาชุดเดียวกัน แล้วจะนำเฉลยมาลงให้นะคะ
เฉลยแบบฝึกหัดผันกริยาในรูป ㅂ(습니다)
มาแล้วคะเฉลยแบบฝึกหัดดูซิว่าทำถูกกี่ข้อ แต่อย่าดูเฉลยก่อนทำแบบฝึกหัดนะคะ
가 다…………. ไป …………… 갑니까 ?……………. 갑니다
오 다…………. มา ……………. 옵니까 ?……………. 옵니다
먹 다…………. กิน……………. 먹습니까 ?…………. 먹습니다
하 다…………. ทำ……………. 합니까 ?……………. 합니다
쓰 다…………. เขียน…………. 씁니까 ?……………. 씁니다
읽 다…………. อ่าน…………… 읽습니까 ?…………. 읽습니다
사 다…………. ซื้อ …………… 삽니까 ?……………. 삽니다
보 다…………. มอง/ดู……….. 붑니까 ?……………. 붑니다
싸 다…………. ถูก……………. 쌉니까 ?……………. 쌉니다
좋 다…………. ดี……………… 좋습니까 ?…………. 좋습니다
있 다…………. มี/อยู่…………. 있습니까 ?…………. 있습니다
없 다…………. ไม่มี / ไม่อยู่…. 잆습니까 ?…………. 잆습니다
춥 다…………. หนาว…………. 춥습니까 ?…………. 춥습니다
덥 다…………. ร้อน…………… 덥습니까 ?…………. 덥습니다
마 시 다……… ดื่ม……………. 마십니까?………….. 마십니다
일 하 다……… ทำงาน……….. 일합니까 ?…………. 일합니다
만 나 다……… พบ……………. 만납니까 ?…………. 만납니다
비 싸 다……… แพง………….. 비쌉니까 ?…………. 비쌉니다
바 쁘 다……… ยุ่ง…………….. 바쁩니까 ?…………. 바쁩니다
맛 있 다……… อร่อย…………. 맛있습니까 ?……… 맛있습니다
맛 없 다……… ไม่อร่อย……… 마없습니까?……….. 마없습니다
귀 엽 다……… น่ารัก…………. 귀엽습니까 ?………. 귀엽습니다
아 프 다……… ไม่สบาย/ปวด.. 아픕니까 ?…………. 아픕니다
공 부 하 다….. เรียน………….. 공보합니까 ?……… 공보합니다
전 화 하 다….. โทรศัพท์…….. 전화합니까 ?……… 전화합니다
좋 아 하 다….. ชอบ………….. 좋아합니까 ?……… 좋아합니다
운 동 하 다….. ออกกำลังกาย.. 운동합니까 ?……… 운동합니다
재 미 없 다….. ไม่สนุก………. 재미없습니까 ?…… 재미없습니다
재 미 있 다….. สนุก………….. 재미있습니까 ?…… 재미있습니다
가 르 치 다….. สอน………….. 가르칩니까 ?……… 가르칩니다
배 가 고 프 다…. หิว……………. 배가 고픕니까 ?…… 배가 고픕니다
*** จบค่ะ***
This entry was posted in Uncategorized. Bookmark the permalink.

1 Response to บันทึก เรียนภาษาเกาหลีกับ ฮันนา(หนึ่ง)

  1. Boling says:

    고마워요.

Leave a reply to Boling Cancel reply